สรุปเนื้อหา
บทความนี้นำเสนอข้อคิดจาก ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ กรณีน้ำท่วมใหญ่ในจีนซึ่งเกิดจากพายุ ฝนตกหนักและ extreme weather ในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้เมืองใหญ่จมน้ำและประชาชนอพยพเป็นแสน รายงานมีผู้เสียชีวิต 6 รายและทรัพย์สินเสียหายอย่างมหาศาล ข้อสังเกตคือเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดถี่และรุนแรงขึ้นในยุคโลกร้อน และความทันสมัยหรือโครงสร้างพื้นฐานของเมืองไม่ได้หมายความว่าพร้อมรับมือเสมอ ดร.ธรณ์ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของผังเมือง โครงสร้างสาธารณูปโภคที่มีประสิทธิภาพ และการรักษาป่าไม้เป็นกลไกป้องกันภัยธรรมชาติ
วิเคราะห์ประเด็น
เหตุแห่งภัย: โลกเปลี่ยน เมืองต้องเปลี่ยน
วิกฤตน้ำท่วมจีนสะท้อนความแปรปรวนของสภาพอากาศรุนแรงจากภาวะโลกร้อน (climate change) เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป ประเทศไทยเองก็เผชิญน้ำท่วมบ่อยครั้งขึ้นในพื้นที่เดิม โดยเฉพาะภาคเหนือและเมืองริมน้ำ
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยช่องโหว่ของการวางโครงสร้างพื้นฐาน แม้เมืองจะดูทันสมัยหรือใหญ่โตแค่ไหน ถ้าโครงสร้างรับมือภัยพิบัติไม่เพียงพอก็ไร้ประโยชน์ ความเสี่ยงของแต่ละเมืองล้วนไม่เท่าเทียมกันอีกต่อไปในยุคภูมิอากาศสุดขั้ว
มุมมองทางสังคม เศรษฐกิจ และจริยธรรม
- สังคม: การอพยพบ่อยครั้งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ผู้เปราะบางยิ่งซ้ำเติมความลำบาก
- เศรษฐกิจ: ความเสียหายเชิงทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล กระทบระบบธุรกิจ ห่วงโซ่อุปทาน การฟื้นฟูใช้ต้นทุนสูง
- จริยธรรม: รัฐและสังคจยมควรตระหนักร่วมรับผิดชอบ มีผังเมืองและนโยบายที่เท่าเทียม ไม่ทอดทิ้งเมืองขนาดเล็กหรือคนชายขอบ
ถกเถียงและตีความ: บทเรียนใหญ่จากน้ำท่วมจีน
คำถามสำคัญคือ เราจะรอให้วิกฤตมาก่อนหรือจะลงทุนป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ? โลกทุกวันนี้เปลี่ยนเร็ว ภัยพิบัติไม่เลือกเมืองหรือประเทศ ประเทศไทยยังขาดแคลนทั้งผังเมืองสมัยใหม่ โครงสร้างป้องกันน้ำ และการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำอย่างยั่งยืน
สิ่งที่ต้องตระหนักคือ ทุกคนมีส่วนรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ภาครัฐ การละเลยการรักษาป่าหมายถึงการทิ้งอนาคตไว้อย่างไม่รับผิดชอบ
ประเด็นต่อยอด:
- ไทยควรลงทุนกับระบบเตือนภัยและโครงสร้างป้องกันระดับเมืองและชุมชนอย่างไร?
- เราพร้อมรับมือการอพยพครั้งใหญ่หรือยัง?
- พลวัตของ climate refugees จะเปลี่ยนโฉมสังคมในทศวรรษหน้าไหม?
สรุปใจความสำคัญ
เรื่องนี้สำคัญต่ออนาคตไทยอย่างยิ่ง บทเรียนจากจีนคืออย่าประมาทกับภัยธรรมชาติที่ถี่ขึ้นจากโลกร้อน มีเพียงการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบและการเอาจริงด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น ที่จะช่วยให้เรารับมืออนาคตที่ไม่แน่นอนนี้ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
Comments
No comments yet. Be the first to comment!