‘ภาษีทรัมป์’ กับผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย: แค่กระทบชั่วคราวหรือจุดพลิกใหญ่?
ในช่วงกลางปี 2568 โลกธุรกิจไทยกำลังจับตามาตรการภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ หรือที่หลายคนเรียกว่าภาษีทรัมป์ ซึ่งประเมินว่าอาจสูงถึง 36% ต่อสินค้าจากไทย เห็นได้ชัดว่านี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจลากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้ติดลบไปถึงต้นปี 2569 หากไม่ได้ข้อสรุปในการเจรจาที่ดีมากพอ แล้วอะไรที่ธุรกิจไทยต้องรู้และเตรียมพร้อมท่ามกลางความเสี่ยงเหล่านี้?
สถานการณ์ล่าสุด: ภาษีทรัมป์สูง สินค้าส่งออกไทยอาจอยู่ในวิกฤต
- จากงานวิเคราะห์ของธนาคารยูโอบี (UOB) ระบุว่า หากไทยไม่สามารถเจรจาภาษีนำเข้าให้ต่ำกว่า 20% ได้ อัตราการเติบโตของ GDP จะติดลบยาวถึงต้นปี 2569
- หากเจรจาสำเร็จและภาษีอยู่ที่ระดับ 10-15% เศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสเติบโต 2% ต่อปี แต่ภาษีมากกว่า 20% จะส่งผลให้ไทยเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอย (Recession) และบริษัทจำนวนไม่น้อยอาจต้องเร่งปรับกลยุทธ์ใหม่ในทันที
สงครามภาษี: ทั่วโลกกังวลห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก
- ภาษีที่ถูกเพิ่มขึ้นจากมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐฯ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทาน เพราะมากถึง 90% ของธุรกิจไทยคาดว่าจะบริหารจัดการซัพพลายเชนยากขึ้น
- ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา: การแสวงหาตลาดใหม่ในอาเซียน, การมุ่งเข้าสู่ดิจิทัล และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
SMEs-ภาคอุตสาหกรรมควรทำอะไร? กลยุทธ์การรับมือยุค New Tariffs
- เน้น 3 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (New S Curve): สุขภาพและ Wellness, การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพสูง (High Value-added Service), และ Green Economy
- ปรับกลยุทธ์ราคา–บริหารต้นทุนอย่างยืดหยุ่น ทดแทนสินค้าหรือวัตถุดิบที่เสียเปรียบทางภาษี
- ใช้เทคโนโลยียกระดับกระบวนการ (Digital Transformation) ให้เร็วขึ้น
เศรษฐกิจไทยกับแนวโน้มการเงิน: ไทยอาจลดดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์?
- ธนาคารยูโอบีชี้ว่า กนง. อาจลดดอกเบี้ยเหลือ 0.50% ต่อปี หากไทยต้องเผชิญภาษีนำเข้าจากสหรัฐเกิน 20% เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ
- อาจพบทิศทางดอกเบี้ยขาลงต่อเนื่องถึงปลายปี 2568 ที่ประมาณ 1.25% ต่อปี โดยมีปัจจัยชี้ขาดคือความชัดเจนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ
การย้ายฐานการผลิต-ลงทุนในไทย: จุดแข็งหรือภาระใหม่?
- ความได้เปรียบของไทยคือโครงสร้างพื้นฐานที่ดีและทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ แต่เมื่อเทียบกับเวียดนามซึ่งปัจจุบันส่งออกมากไปยังสหรัฐฯ ค่าแรงและสิทธิประโยชน์ยังเป็นข้อถกเถียงสำคัญ
- รัฐควรเร่งปลดล็อกกฎระเบียบและหนุน Doing Business เพื่อจูงใจนักลงทุนจากต่างประเทศ
สรุป: ไทยรับมือภาษีทรัมป์อย่างยั่งยืน ต้องเล่นเกมรุกด้วยนวัตกรรม–ดิจิทัล–ยั่งยืน
- ‘ภาษีทรัมป์’ ไม่ใช่แค่ข้อจำกัดแต่คือโจทย์ใหญ่ของทั้งประเทศ
- โอกาสสำหรับธุรกิจที่กล้าเปลี่ยนและกล้าลงทุนในเทรนด์ใหม่ อาทิ Green Economy, Digital Supply Chain และการบริการสุขภาพ
- ทุกธุรกิจควรติดตามสถานการณ์และ Upskill ด้าน Digital & Sustainability อย่างต่อเนื่องเพื่อคงความได้เปรียบในการแข่งขัน
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาษีทรัมป์-เศรษฐกิจไทย
Q: อัตราภาษีทรัมป์จะมีผลถึงเมื่อไร?
A: ยังไม่มีความแน่นอนจนกว่าการเจรจาจะสิ้นสุดซึ่งอาจชัดเจนในเดือนสิงหาคม 2568
Q: ส่งออกสินค้าอะไรที่กระทบมากที่สุด?
A: กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า, ยางพารา และอาหารแปรรูป
Q: SMEs ควรเริ่มต้นอย่างไร?
A: วางแผนหาแหล่งนำเข้าใหม่, ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ Lean, เพิ่มช่องทางตลาดต่างประเทศในอาเซียน
Q: ตลาดหุ้นและเงินเฟ้อจะเป็นอย่างไร?
A: นักลงทุนควรระวังความผันผวน หุ้นอิงส่งออกอาจเผชิญแรงกดดัน แต่ดอกเบี้ยที่ลดลงอาจเป็นแรงหนุนสำหรับบางกลุ่มธุรกิจ
สำหรับผู้นำองค์กรและผู้ประกอบการไทย นี่คือเวลาสำคัญในการติดตามข้อมูลข่าวสาร ทบทวนกลยุทธ์ และกล้าขยับเข้าสู่เศรษฐกิจโลกใหม่อย่างมั่นใจ
Comments
No comments yet. Be the first to comment!