สาระสำคัญ
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ยืนยันว่าพรรคพร้อมโหวตให้กับนายกรัฐมนตรีชั่วคราว หากผู้ถูกเสนอรับเงื่อนไขที่พรรคตั้งไว้ เช่น การผ่านงบประมาณปี 2569 แล้วให้ยุบสภาฯ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน พร้อมยืนยันว่าพรรคจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อประคองสถานการณ์ เพียงแต่จะช่วยให้ประเทศผ่านจุดวิกฤตด้านงบประมาณและเตรียมกระบวนการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 อย่างจริงจัง
วิโรจน์ยังกล่าวถึงข่าวการพูดคุยกับนักการเมืองฝ่ายอื่นว่า เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย และปฏิเสธแนวคิดการ "แอบคุย-แอบโทร" กับบุคคลอื่นอย่างมืดแปดด้าน
วิเคราะห์
แนวทางของพรรคประชาชนที่วิโรจน์สะท้อน เป็นจุดสมดุลระหว่างอุดมการณ์กับความจำเป็นทางการเมือง การประคับประคองสถานการณ์ผ่าน "นายกฯ ชั่วคราว" ที่ต้องมีเพื่อให้งบประมาณสำคัญผ่านพ้นและป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ตั้งเงื่อนไขว่าจะต้องยุบสภาในทันทีที่ภารกิจนี้เสร็จสิ้น เป็นข้อเสนอที่สื่อถึงความสำนึกในหน้าที่ต่อประชาชนแต่ไม่ยอมแลกอำนาจในระยะยาว
การประสานงานกับพรรคอื่นหรือแม้แต่การคุยกับฝ่ายที่เคยเป็นคู่แข่งทางการเมือง แสดงถึงการเติบโตทางประชาธิปไตยและความเข้าใจใน "เกมการเมือง" ว่าต้องมีการประนีประนอมเพื่อแก้ทางตันทางโครงสร้าง ยิ่งไปกว่านั้น การเรียกร้องให้มี ส.ส.ร.เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็เป็นการมองไกลกว่าประโยชน์ระยะสั้นในเวทีอำนาจ เห็นชัดว่าพรรคประชาชนต้องการเห็นประชาชนกลับมาเป็นเจ้าของอำนาจอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี แม้จะพยายามชูอุดมการณ์ แต่บริบทของการเมืองไทยที่มีเกมใต้โต๊ะ กลุ่มผลประโยชน์ และการเร่งเร้าให้ประนีประนอมอย่างเร่งด่วน อาจทำให้ประชาชนบางส่วนตั้งคำถามถึงความเข้มแข็งในจุดยืนนี้ ว่าจะสามารถรักษาเจตนารมณ์ได้จริงหรือไม่ หรือท้ายที่สุดจะกลายเป็นเพียง "กลไก" ในการประคองระบบที่ไม่เปลี่ยนแปลงให้ดำเนินต่อไปเท่านั้น
ถกเถียงและตั้งข้อสังเกต
ประเด็นนี้สะท้อนปัญหาโครงสร้างของการเมืองไทยอย่างลึกซึ้ง เราเห็นแล้วว่าทุกครั้งที่เกิดทางตัน ฝ่ายการเมืองก็จะเสนอยุบสภา-นายกฯ ชั่วคราว และวนเวียนกลับไปที่จุดเริ่มต้น นี่คืออาการของระบอบที่อยู่ระหว่าง "ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์" กับ "รัฐประหารที่คุกคามเสมอ" แนวคิด "ยกมือเพื่อผ่านภารกิจเฉพาะหน้าแต่ไม่ร่วมรัฐบาล" เป็นยุทธวิธีวางระเบียบวินัยทางอำนาจกับจริยธรรม แต่ยังไม่มีคำตอบว่าระบบการเมืองจะเข้มแข็งขึ้นหลังจากนี้หรือไม่
นอกจากนี้ ความคาดหวังต่อ ส.ส.ร. เป็นอีกสัญญาณว่าสังคมไทยยังไม่ไว้วางใจโครงสร้างรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัน คำถามคือ หากมีการเปลี่ยนผ่านจริง จะเผชิญกับแรงต้านเดิม ๆ หรือการบั่นทอนจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมเช่นในอดีตหรือไม่?
สุดท้าย สิ่งที่ประชาชนควรให้ความสนใจคือ การเมืองแบบนี้จะยังวนในลูปของวิกฤต-ประนีประนอม-รัฐประหาร หรือไม่ หรือว่าเรากำลังเริ่มเห็นออกซิเจนใหม่ ๆ ที่จะเปิดหายใจเข้าสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเสียที
สรุปทิ้งท้าย
การเปิดเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นนี้อาจไม่ใช่ข้อยุติที่ถูกใจทุกฝ่าย แต่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการพยายามหาทางออกเพื่อไม่ให้ประเทศหยุดชะงัก พรรคประชาชนจะรักษาจริยธรรมและพลังเงื่อนไขของอุดมการณ์ไว้ได้จริงหรือไม่ ตรงนี้คือคำถามสำคัญที่ต้องจับตาในการเมืองไทยยุคต่อไป
Comments
No comments yet. Be the first to comment!