สรุปสถานการณ์

จากรายงานการประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อ 25 มิถุนายน 2568 ส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 มีแนวโน้มจะหดตัวรุนแรงเนื่องจากมาตรการภาษีจากสหรัฐฯ แม้ เศรษฐกิจช่วงต้นปีจะฟื้นตัวเหนือความคาดหมายจน ธปท. ปรับคาดการณ์ GDP ปี 2025 ขึ้นเป็น 2.3% ยังต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย เนื้อหายังระบุว่า นโยบายการเงินเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเงินได้ จึงต้องใช้มาตรการเชิงเป้าหมายเสริมควบคู่การปรับตัวของภาคธุรกิจ

วิเคราะห์ผลกระทบและแนวโน้ม

การหดตัวของการส่งออกไทย สะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจที่ยังพึ่งพาการค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จึงส่งผลเกินกว่าแค่ยอดขายสินค้า แต่กินความไปถึงโซ่อุปทาน แรงงาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน

รายงานของ ธปท. ชี้ชัดถึงข้อเท็จจริงที่สำคัญ—เครื่องมือด้านนโยบายการเงิน เช่น การปรับลดดอกเบี้ย มีข้อจำกัดในการเยียวยาปัญหาเชิงโครงสร้าง การหวนกลับไปใช้นโยบายการคลังหรือมาตรการเฉพาะจุด (เช่น การช่วยเหลือ SMEs หรือปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทาน) จึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้ถ้อยคำในรายงานยังตอกย้ำว่ารัฐบาลจำเป็นต้องขับเคลื่อนนโยบายอื่นๆ ร่วมด้วย

ขณะที่ตลาดและนักวิเคราะห์บางส่วนยังวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัว ธปท. ดูจะออกแสดงท่าทีเชิงบวกกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นกลยุทธ์ปลุกความเชื่อมั่นหรือถ่วงดุลมุมมองเชิงลบจากนักลงทุนสากล

ข้อถกเถียงและความหมายเชิงลึก

หัวข้อนี้สะท้อนแนวโน้มโลกาภิวัตน์ที่เริ่มถอยหลังและการใช้นโยบายปกป้องทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งบีบให้ประเทศกำลังพัฒนาเช่นไทยต้องเร่งปรับตัว นี่คือสัญญาณเตือนว่าการฝากความหวังไว้กับตลาดบางประเทศและสินค้าบางกลุ่มเป็นข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง

หัวข้อยังชวนตั้งคำถาม: รัฐบาลไทยพร้อมขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกพอหรือไม่? ภาคธุรกิจไทยสามารถปรับตัวให้ทันกับสภาพภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจใหม่ หรือจะตกในวังวนการแก้ปัญหาระยะสั้นอยู่ร่ำไป

ขณะเดียวกัน แม้การขยับปรับลดดอกเบี้ยแล้วหยุดไว้ที่ 1.75% อาจช่วยรักษาเสถียรภาพเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยน แต่ไม่อาจแก้จุดอ่อนเชิงโครงสร้าง การฟื้นตัวที่แข็งแรงต้องประสานทั้งนโยบายการคลัง การพัฒนาแรงงาน และนวัตกรรมเศรษฐกิจ

สรุปทิศทางและข้อเสนอ

เคสนี้เป็นบทพิสูจน์ความเปราะบางของไทยในห่วงโซ่เศรษฐกิจโลก จุดเปลี่ยนสำคัญคือการเพิ่มทางเลือกในตลาดใหม่ ต่อยอดอุตสาหกรรม และหาแนวทางร่วมนโยบายระหว่างรัฐ-เอกชนมากกว่าหวังพึ่งมาตรการเดิมๆ ผลกระทบจากการขึ้นภาษีครั้งนี้จึงควรเป็นจุดตั้งต้นทบทวนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยอย่างจริงจังเสียที