เมื่อกฎหมายกลายเป็นกรงที่มีรู: เรากำลังเข้าใจเยาวชนกับกัญชาผิดแค่ไหน?

เมื่อกฎหมายกลายเป็นกรงที่มีรู: เรากำลังเข้าใจเยาวชนกับกัญชาผิดแค่ไหน?
1.0x

เมื่อกฎหมายกลายเป็นกรงที่มีรู: เรากำลังเข้าใจเยาวชนกับกัญชาผิดแค่ไหน?

"มนุษย์เติบโตไม่ใช่เพราะการถูกควบคุม แต่เพราะการได้เข้าใจ" — สุภาษิตที่ยังคงดังก้องแต่กลับถูกลืมในนโยบายหลายเรื่อง

แม้แต่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกมิติของชีวิต การถกเถียงเกี่ยวกับกฎหมายกัญชาในเด็กและเยาวชนยังดูเหมือนเดินวนอยู่ในวงกลม เมื่อเสียงกังวลดังขึ้นมารายวัน ความจริงเบื้องหลังข่าว 'หมอสมิทธิ์' ชี้กฎหมาย 'กัญชาใหม่' คุมการเสพในเด็ก-เยาวชนไม่ได้' กลายเป็นกระจกฉายภาพสังคมที่มองการเติบโตและวุฒิภาวะเด็กด้วยดวงตาเดิมๆ

จากกัญชาถึงคำถามที่ซ่อนอยู่: ใครเป็นผู้ควบคุมใคร?

กฎหมายใหม่เกี่ยวกับกัญชาได้กลายเป็นสมรภูมิระหว่างสองขั้ว: ความหวาดระแวงต่อผลกระทบและอิสรภาพในการทดลองของวัยรุ่น คำถามสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า "ควรทำอย่างไรกับกัญชา" แต่คือ "เราเชื่ออะไรกันแน่เกี่ยวกับการเติบโตของมนุษย์?"

1. การควบคุมกับความอยากรู้อยากลอง (The Paradox of Control)

รัฐมักตอบสนองต่อพฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชนด้วยมาตรการควบคุม ซึ่งดูเหมือนจะขัดกับธรรมชาติของวัยรุ่นที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความสงสัยและการค้นหาตัวตน งานวิจัยในสหรัฐอเมริกา เช่น The Monitoring the Future Study พบว่า เมื่อกฎหมายควบคุมเข้มในเด็ก พฤติกรรมเสี่ยงไม่ได้หายไป กลับแค่ย้ายไปในพื้นที่ที่มองไม่เห็น หรือยิ่งทวีความสนใจในสิ่งที่ถูกห้าม

ตัวอย่างนโยบาย ผลที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
Legalize (เช่น ในโคโลราโด) อัตราใช้กัญชาในเยาวชน "นิ่ง" หรือ "ลดลง" ในระยะยาว
Criminalize เพิ่มโอกาสเกิดตลาดมืดและความรู้ผิด ๆ ในหมู่เยาวชน

2. การศึกษากับความเข้าใจที่ลึกซึ้ง (Education Over Prohibition)

แทนที่จะใช้ "กรงล็อก" องค์ความรู้จิตวิทยาพัฒนาการแนะนำให้เปลี่ยนจากการห้ามมาเป็นการส่งเสริมความเข้าใจตัวเอง ความเสี่ยงของพฤติกรรมทางเลือก องค์การอนามัยโลกเคยชี้ว่า การให้ข้อมูลรอบด้านและเปิดพื้นที่พูดคุยจริงจัง กลับช่วยลดอัตราเด็กเสพสสารเสพติดได้มากกว่าการขู่หรือบทลงโทษ

"การเปิดพื้นที่ให้เด็กตั้งคำถามกับกัญชาคือการป้องกัน ไม่ใช่การยกเลิก" — นักจิตวิทยาการศึกษา

3. เส้นแบ่งระหว่างวินัยและความสัมพันธ์ทางสังคม

กฎหมายอาจคุมภายนอกได้ แต่สายใยในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนต่างหากที่สร้างระบบป้องกันจากภายใน เราอาจถามว่า อะไรจะเกิดขึ้นถ้าโรงเรียนเปิดคอร์ส “ทักษะปฏิเสธ” หรือบ้านกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับสนทนาทุกเรื่อง โดยปราศจากอคติ?

กัญชาใหม่: คลื่นแห่งความกลัวหรือจุดเริ่มต้นของบทสนทนา?

การที่กฎหมายยังควบคุมพฤติกรรมเสพกัญชาในเด็กไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเราควรเพิกเฉยต่อปัญหา แต่กลับเปิดพื้นที่ให้เราทบทวนว่าการเติบโตมาในบริบทสังคมที่ตั้งต้นจาก "ความกลัว" หรือ "ความเข้าใจ" ส่งผลกับชีวิตเด็กต่างกันแค่ไหน

“เด็กที่ถูกสอนให้กลัว จะระวังแต่ไม่รู้จักรับผิดชอบ เด็กที่ได้เรียนรู้ จะเติบโตพร้อมตระหนักในตัวเอง”

ประเทศไทยจึงกำลังยืนอยู่ที่ทางแยกสำคัญว่า จะเลือกตั้งกำแพงกลัว หรือจะสร้างเวทีสนทนาให้เยาวชนกล้าเผชิญหน้าและรับผิดชอบต่อโลกที่เปลี่ยนไป

คุณคิดอย่างไร? เราควรส่งไม้ต่ออนาคตด้วยการห้าม หรือการให้ความรู้?


This article was inspired by the headline: ''หมอสมิทธิ์' ชี้กฎหมาย 'กัญชาใหม่' คุมการเสพในเด็ก-เยาวชนไม่ได้ - posttoday'.

Language: -

Comments

No comments yet. Be the first to comment!

0/2000 characters