คุณเคยนึกเล่นๆ ไหมว่า ถ้าเมืองใหญ่ทั้งหลายในโลกนี้มีรถแท็กซี่พูดได้เหมือนในแอนิเมชั่น Cars จะเป็นอย่างไร? บางที พวกมันคงชวนผู้โดยสารเมาท์เรื่องการจราจร หรืออวดเบอร์สายลูกค้าขาประจำกันสนุกสนาน แต่ในชีวิตจริง บนถนนของกรุงเทพฯ, โตเกียว, หรือแม้แต่ฮ่องกง รถแท็กซี่กลับเป็นเจ้าถิ่นที่ถือแฟ้มสะสมแต้มเรื่องราวของเมืองได้อย่างน่าอัศจรรย์ — และการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับพวกมัน ดูจะยากยิ่งกว่าการขอทางวันรถติดเสียอีก
ฮ่องกงเป็นตัวอย่างสำคัญ ที่ที่เทคโนโลยีอย่างแอปพลิเคชันเรียกรถ (ride-hailing) กลับเดินทางช้ากว่าตึกระฟ้าและรถรางที่เคลื่อนผ่านอดีตและปัจจุบัน บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ใช่เพราะฮ่องกงไม่ทันโลก แต่เพราะรากความสัมพันธ์ระหว่างสังคม คนขับแท็กซี่ และกฎหมายเก่าแก่ต่างหากที่เหนียวแน่นยิ่งกว่าตะขอเกี่ยวกระเป๋าหิ้วของผู้โดยสาร
ย้อนดูสหรัฐอเมริกาในยุค 1915-1920 ที่เริ่มมี 'Jitney' รถขับรับจ้างขนาดเล็ก ทั้งนั่งแชร์ผู้โดยสารและเลือกเส้นทางกันสดๆ ผลคือเกิดดราม่าใหญ่ระหว่างคนขับรถเมล์กับผู้ประกอบการ jitney จนท้ายที่สุดกฎหมายเข้ามาควบคุมแทบจะหยุดกิจการเกิดใหม่เหล่านี้ ต่อให้เทคโนโลยีล้ำหน้าแค่ไหน เมื่อเจออุปสรรคของผลประโยชน์ดั้งเดิมและความกลัววัฒนธรรมเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างก็ 'ค้างเติ่ง' เหมือนสัญญาณไฟแดงช่วงเที่ยงคืน
ถามจริง ๆ — รถแท็กซี่รูปแบบใหม่จะถูกกฎหมายง่ายกว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ไหม? หรือสุดท้าย เราก็ยังชินกับการโบกมือเรียกแท็กซี่สายเก๋าบนถนนที่เหมือนฉากซ้ำในหนังที่ฉายวนไปวนมา
This article was inspired by the headline: 'So, Hong Kong has pledged to legalise ride-hailing. Don’t hold your breath'.
Comments
No comments yet. Be the first to comment!